ทำบุญที่ไหนก็ได้ไม่ใช่เหรอ?

ทำบุญที่ไหนก็ได้ไม่ใช่เหรอ?

“การทำบุญอย่างนี้จึงเป็นการทำโดยเพิ่มคุณภาพให้จิตใจสร้างความละเมียดให้ทานนั้น...มีคุณค่ายิ่งขึ้น”
เมื่อศึกษาเรียนรู้ชีวิตเราอย่างละเอียด ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ สายน้ำ ล้วนมีสายใยถักทอเกี่ยวพันกันจนแยกไม่ออก ไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร จึงมีผลกระทบต่อสิ่งอื่นทั้งสิ้น แต่จะมากจะน้อยนั่น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เวลาพูดถึงเรื่องทำดีก็เช่นกัน ไม่ว่าทำที่ไหน ก็ล้วนได้ผลดีทั้งสิ้น แต่จะมากจะน้อยก็อีกเรื่อง เพราะทุกการกระทำล้วนมีผล
และผลนั้นจะส่งผลกระทบไปได้มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่าง ตั้งแต่คนทำ ทำกับใคร ด้วยอะไร ตั้งใจ ไม่ตั้งใจ ทุกอย่างต้องนำมาบวกเพิ่มเข้าไป แล้วผลที่ได้ก็จะออกมา
ในพระพุทธศาสนา มักเน้นด้านคุณภาพมากกว่าปริมาณ เพราะทุกครั้งที่พระพุทธเจ้าทรงทำอะไรลงไป จะต้องเกิดผลอย่างสูงสุด ดี สุด เลิศสุด
อย่างเวลาที่ทรงแสดงธรรม ก็จะมุ่งให้เกิดประโยชน์แก่คนฟัง แม้จะคนเดียวก็ตาม เพราะคนๆเดียวรู้แล้วย่อมจะนำไปเผยแผ่ต่อไปได้ เป็นการสร้างผลกระทบต่อไปไม้สิ้นสุด เป็นการเน้นไปที่คุณภาพ เพื่อจะไปสร้างปริมาณที่สูงขึ้นในเวลาต่อมา
กับการให้(ทาน) ที่เราทำกัน ถ้าให้กับกลุ่มคนที่มีศีลผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นปริมาณมากๆ ผลที่เกิด ท่านว่ามี มากมายจนนับไม่ได้
แต่บางทีเราอาจหาคนเหล่านั้นได้ยากมาก ฉะนั้นไม่ว่าเราให้กับใครก็ตาม แม้แต่สัตว์ พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าผู้ให้ย่อมได้ผลตอบแทนทั้งสิ้น
แต่ชีวิตเราทุกวันนี้ ทำอะไรมักจะทำไปไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ยิ่งเรื่องคุณภาพไม่ต้องพูดถึง
อย่างอาหารที่แต่ก่อนต้องใช้เวลากินนานๆ เดี๋ยวนี้ก็เอาสะดวกเข้าว่า อย่างโภชนาการที่ว่า อาหารมื้อที่สำคัญที่สุด คือมื้อเช้า เราก็ไปกินเอาตอนบ่าย หรือค่ำแทนประโยชน์จึงเกิดน้อยลงตามไปด้วย ทำให้สุขภาพแย่ลงไปอีกเพราะความจำเป็นเราจึงต้องทำอย่างนั้น
แต่ในชีวิตคงมีสักครั้งที่เราอยากกินอาหารที่ประณีตจัดแต่งอย่างถูกสุขโภชนา สะอาด และยกออกมาตอนร้อนๆบรรยากาศและสถานที่รอบข้างก็เป็นแบบธรรมชาติ โล่งสบาย ไม่ยัดเยียดเบียดแย่งกับใคร
ส่วนตัวเราก็ไม่ต้องรีบเร่ง กินแบบสบายๆ มีความสุขกับรสอาหาร ช่วยทำให้ช่วงเวลานั้นเต็มไปด้วยความสุขจากการกินอย่างแท้จริง
เช่นเดียวกับการที่เราจะทำบุญ จะทำที่ไหน เมื่อไร ล้วนได้บุญก็จริง แต่ความรู้สึกแตกต่าง คือมีความสุขต่างกันไป
บางทีทำไปแล้วไม่รู้สึกว่ามีความสุข ก็คิดมากกว่าจะได้ผลหรือไม่ แสดงว่าเราลืมสร้างคุณภาพทางความคิดขึ้นมาคือก่อนจะทำ ต้องคิดให้มีความสุขไปด้วยเสมอ
การทำบุญอย่างนี้  จึงเป็นการทำโดยเพิ่มคุณภาพให้จิตใจ สร้างความละเมียดให้ทานนั้นมีคุณค่ายิ่งขึ้น เพิ่มความรู้สึกว่า ของที่ให้แม้จะน้อย แต่กลับยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของผู้ให้และผู้รับ นั่นจึงเป็นบุญอย่างแท้จริง
...ฉะนั้น การที่เราคิดเพียงว่า ให้ที่ไหน หรือกับใครก็ได้ ผลที่ได้ย่อมจะไม่มีคุณภาพอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อเรายินดีที่จะสละของสักอย่างแล้ว ก็ลองสละเวลาเพิ่มอีกนิด ในการทำให้ของนั้น มีคุณค่าทั้งแก่ตัวเองและคนอื่นด้วย ไม่ดีกว่าหรือ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น